เหมือนปี่ฆ้องฮ้องดัง…เมืองไทยจะมีเลือกตั้งในอีกไม่กี่วัน แต่ในสายตาคนรุ่นใหญ่มากประสบการณ์ยังเห็นพรรคการเมืองเล่นเกมแข่งขันกันด้วยประชานิยม
สุขภาพ ราวเด็กเล่นตี่จับหน้าห้องเรียน…พรรคนี้แจกโน่น พรรคนั้นแจกนี่ พรรคนู่นแจกโน่น… ไม่มีแนวทาง…พรรคใด? จะคิดยกคุณภาพชีวิตพสกนิกรไม่ให้ตายวันตายพรุ่ง มองแต่ว่าเรื่องฝุ่นผงจิ๋วพิษ “หลังเที่ยงวัน 2.5” กำเนิดกระแสร้ายแรงเมื่อไทยแลนด์เป็นจังหวัดเชียงใหม่ก้าวผ่านทุกชาติขึ้นไปยืนชั้น 1 ที่มีฝุ่นผงพิษหุ้มกระทั่งบ่หันภูเขาสุเทพสักน่อย แถมพบว่าผู้ที่โน่นเป็นโรคมะเร็งโพรงจมูกเนื่องจากว่าถูกฝุ่นผงประเภทนี้เข้าไปก่อกวน สุมาเต๊อะเจ้า!…ถ้าเกิดมัวแต่รอนโยบายพรรคการเมืองที่คิดจะเป็นรัฐบาลรักษาโรคมะเร็งฟรี…ชาตินี้คงจะไม่ทัน ไว้ชาติต่อไปค่อยตามเปิ้นไปรักษา…ลักษณะเดียวกันมาตรการสาธารณสุขบ้านพวกเราคงจะเห็นด้วยมีแม้กระนั้นจะเสื่อมโทรมขึ้นทุกวี่ทุกวันเพื่อโปรโมทสร้างแรงบันดาลใจให้ซื้อยาที่เปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์บริโภคทั่วๆไปได้ยา พุทธศักราช2510
เมื่อรัฐปล่อยให้พ่อค้านักธุรกิจออกมาอวดอ้างสรรพคุณยาสารพัดบำบัดโรค โดยเลี่ยงบาลีเป็น “อาหารเสริม”
ดังนี้มีแพทย์แล้วก็เภสัชกร “น้ำเสีย” สุขภาพ รอหนุนอยู่ด้านหลังให้มองขลังน่าไว้ใจเภสัชกร “น้ำดี” ให้ข้อมูลน่าไว้วางใจ…ประเทศไทยมีพ.ร.บ.ยา พุทธศักราช2510 ปรับปรุงแก้ไขเพิ่ม พุทธศักราช2518 รวมทั้ง พุทธศักราช2522 ข้อกำหนดให้ยกเลิกในมาตรา 6 ที่ พระราชบัญญัติยา พุทธศักราช2510
แนะนำข่าวสุขภาพ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : กรมอนามัยร่วมกับอิมแพ็คปลุกกระแสสังคมไทยตระหนักรู้บริโภคอาหาร-เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ดี