เด้งตามหุ้นต่างประเทศ!!

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 11 พ.ย.65 ปิด 1,637.29 จุด เพิ่มขึ้น 18.06 จุด มูลค่าซื้อขาย 86,477.24 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 5,336.93 ล้านบาท

เด้งตามหุ้นต่างประเทศ!!

เศรษฐศาสตร์ หุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรง ตามตลาดต่างประเทศ รับเงินเฟ้อสหรัฐฯที่ออกมาต่ำกว่าคาด ลดความกังวลว่าสหรัฐฯจะขึ้นดอกเบี้ยแรง ขณะที่เงินบาทแข็งค่าต่อช่วยหนุนกระแสเงินทุนไหลเข้า เช้าวันที่ 11 พ.ย.65 MSCI ประกาศหุ้นเข้า-ออกดัชนี MSCI รอบนี้ มีผลบังคับใช้ราคาปิด 30 พ.ย.65 มีหุ้นไทยเข้าออก ดังนี้ MSCI Global Standard ไม่มีหุ้นไทยเข้า แต่มีออก 1 ตัว-BAM (ตกชั้นไปอยู่ Small Cap ส่วน MSCI Global Small Cap มีหุ้นเข้า 5 ตัว-คือ BAM, ERW, JWD, NEX, RAM ออก 2 ตัว คือ PSG, SYNEXบล.ทิสโก้มองหุ้น TLI จะถูกกดดันระยะสั้น หลังไม่ได้เข้า MSCI ตามที่ตลาดคาดไว้ แต่ราคาที่ปรับลง 5.5% สะท้อน Downside ที่จำกัด มองเป็นจังหวะ “ซื้อสะสม” ให้เป้าพื้นฐาน 18.3 บาท สำหรับ BAM ตกชั้น เป็น Small Cap มีผลกระทบจำกัด กำไร 3Q22 ออกมาสอดคล้องกับที่คาด โดยการเก็บเงินสดดีขึ้นใน Q3 เพิ่มความเชื่อมั่นต่อแนวโน้ม Q4 ประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ที่ 3.1 พันล้านบาท คาดจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 0.7 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. Yield 5% ขึ้นไป แนะ “ซื้อสะสม” เป้าพื้นฐาน 25 บาท จากสถิติอดีตปี 2020-ปัจจุบัน พบหุ้นที่ถูกคัดเข้าดัชนีมักจะ Outperform ได้ดีตั้งแต่วันประกาศจนถึงวันที่มีผลบังคับใช้ ข่าวเศรษฐศาสตร์ โดยผลตอบเทนเฉลี่ย 10.4% ด้วยโอกาสปรับขึ้น 8% รอบที่แล้ว พ.ค.65 มีหุ้นเข้า MSCI Small Cap 10 บริษัท ให้ผลตอบแทนเป็นบวกทุกตัวเฉลี่ยสูงถึง 17% ขณะที่ SET Index +5% หุ้นที่ถูกคัดเข้ารอบนี้มีโอกาส Outperform และน่าเก็งกำไรจนถึงวันที่มีผลบังคับใช้ได้เช่นกัน